วันนี้ (14 ก.ย.) เกิดเหตุรถทัวร์โดยสารปรับอากาศบริษัท 407 พัฒนา สายระยอง-หนองคาย สีขาว-ฟ้า บรรทุกผู้โดยสารเต็มคันรถจากจ.ระยอง มุ่งหน้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.หนองคาย ชนเข้ากับรถพ่วง 18 ล้อบรรทุกนมเต็มคัน ทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายรายขณะที่คนขับรถของรถทัวร์เสียชีวิตที่โรงพยาบาล โดยเหตุดังกล่าวเกิดบริเวณหน้าสถานีวิจัยสัตว์ปีกกบินทร์บุรีและวิทยาลัยการอาชีพกบินทร์บุรี หมู่ 3 ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เข้าที่เกิดเหตุเพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและงัดร่างผู้เสียชีวิตออกจากซากรถ โดยจุดเกิดเหตุเป็นถนนสี่เลน
หน้าวิทยาลัยการอาชีพกบินทร์บุรี ฝั่งขาเข้าตัว อ.กบินทร์บุรี พบรถโดยสารประจำทางดังกล่าวเสียหลักตกลงข้างทาง ด้านหน้ารถมีรอยถูกชนยุบอัดคนขับให้ติดอยู่ภายใน หน่วยกู้ภัยจึงต้องใช้เครื่องตัดถ่างเพื่อนำร่างคนขับรถที่บาดเจ็บสาหัสออกมาโดยใช้เวลาถึงครึ่งชั่วโมง
ถัดมามีรถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกนมกล่องยี่ห้อดัง วิ่งจากโรงงานผลิต อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี มุ่งหน้าไปส่งที่ จ.นครราชสีมา มีนายเกรียงศักดิ์ แผ้วกลางอายุ 42 ปี เป็นคนขับ รถสภาพจอดบนไหล่ทาง และนมที่บรรทุกมาเทกระจาดเกลื่อนถนน ตัวรถมีรอยบุบเล็กน้อย
จากการสอบสวน นายฐาวร อินทร์โส พนักงานขับรถทัวร์มือสอง กล่าวว่า คนขับทัวร์ชื่อนายสมบัติ กีบจำปี อายุ 50 ปี โดยขณะเกิดเหตุ ตนและผู้โดยสารส่วนใหญ่กำลังหลับอยู่ จึงไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มารู้ตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจและเสียงดังโครม
ตนตั้งสติได้ ก็สำรวจรอบๆ และบอกให้ผู้โดยสารทั้งหมด 44 คน ลงจากรถ โดยนายฐาวร เล่าว่า รถออกมาจากต้นทาง จ.ระยองช่วงหัวค่ำเวลา 20.00 น. หลังเกิดอุบัติเหตุ พบว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย และคาดว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากถนนลื่น เพราะขณะเกิดเหตุมีฝนตกโปรยปรายมาตลอดเส้นทาง โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเชิญคู่กรณีมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่ง และตรวจสอบกล้องจากรถทัวร์ประกอบกัน
ด้านนายวิเชียร สุวรรณสนธิ อายุ 60 ปี เล่าว่าตนเป็นบริกรในรถทัวร์สายดังกล่าว และนั่งคู่มากับคนขับ ขณะที่เกิดเหตุมีฝนตก และรถทัวร์กำลังแซงรถพ่วงขึ้น แต่สภาพถนนลื่นแซงไม่พ้น จึงชนท้ายอย่างแรง รถทัวร์เสียหลักดังกล่าว
ขณะที่นายยศกร โสดาอายุ 39 ปี หนึ่งในผู้โดยสารเล่าว่า ตนขึ้นรถมาจากจ.ชลบุรีเพื่อจะไปบ้านแฟนที่จ.ขอนแก่น โดยตนได้รับบาดเจ็บเย็บ 4 เข็ม เป็นแผลที่หน้าผาก และแก้ม โดยขณะเกิดเหตุ ตนเห็นว่ารถทัวร์แซงไม่พ้นจึงชนท้ายรถพ่วง
ทางหน่วยกู้ภัยได้ระดมช่วยเหลือและนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลกบินทร์บุรี 13 คน โรงพยาบาลศรีมหาโพธิ 8 คน และ โรงพยาบาลนาดี 8 คน และได้ประสานกับทางบริษัท 407 พัฒนา สายระยอง – หนองคาย เพื่อมารับผู้โดยสารที่ปกตินำส่งจุดหมายต่อไป
และเมื่อเวลา 04.25 น. ที่ผ่านมา ทางบริษัท 407 พัฒนา สายระยอง-หนองคาย ก็ได้จัดรถทัวร์โดยสารมารับผู้โดยสารที่ไม่ได้รับบาดเจ็บที่หน้าโรงพยาบาลกบินทร์บุรีเพื่อนำส่งภาคอีสาน
รวบ ‘บังด้อล’ ฆ่าสาว 18 แฟนเพื่อนเพราะแอบชอบ หลังฝ่ายหญิงคลอดลูกได้ไม่นาน
จากกรณีที่ น.ส.ปริศนาวัย 18 ปีถูกพบเป็นศพในป่ากก ซอยสุวินทวงศ์ 24 โดยตำรวจสืบทราบว่ามือฆ่าคือ นายยุทธิพงศ์ สุขเจริญ หรือ บังด้อล อายุ 22 ปี เพื่อนของสามีน.ส.ปริศนา ล่าสุด วานนี้ (13 ก.ย.) มีรายงานว่า พ.ต.อ. คมกฤษณ์ คำบุศย์ ผกก.สน.มีนบุรี ได้เผยถึงความคืบหน้าของกรณีดังกล่าว
โดยพ.ต.อ. คมกฤษณ์ เผยว่า ผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่าผู้ตายจริง โดยการลวงผู้ตายว่าให้ไปรับสามีก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปภายในซอยที่เกิดเหตุ และลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ ก่อนจะบีบคอและจับหัวผู้ตายกดน้ำจนเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของข้อหาข่มขืน จะต้องรอผลตรวจชันสูตรพลิกศพเพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี ก่อนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมไปภายหลัง
ขณะนี้ นายยุทธิพงศ์สามารถถามตอบได้ แต่ใบหน้ามีอาการปูดบวม เขียวช้ำ ตาปิด จากการถูกรุมประชาทัณฑ์ และยังรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ที่ ร.พ.นพรัตน์ โดยอยู่ระหว่างการประเมินจากแพทย์เฉพาะทางด้านสมอง ซึ่งหาก แพทย์ประเมินแล้วว่าสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ ทางตำรวจจะนำตัวไปรักษาต่อที่ ร.พ.ราชทัณฑ์
พลตำรวจโทพงษ์วุฒิ กล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินงานด้านการปราบปรามอาชญากรรมในพื้นที่จะมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาในส่วนของพื้นที่ความรับผิดชอบตำรวจภูธรภาค 8 ได้มีการจับกุมผู้กระทำความผิดจำนวนมาก และมีการตรวจยึดยาบ้ามากถึง 15 ล้านเม็ด ยาไอซ์มากกว่า 100 กิโลกรัม เฮโรอีนกว่า 300 กิโลกรัม อาวุธปืนอีกจำนวนมาก